Maserati บริษัทผู้ผลิตรถหรูแห่งอิตาลี ก่อตั้งโดย 5 พี่น้องแห่งตระกูล Maserati เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1914 เมือง Bologna มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Modena ซึ่งปัจจุบันได้ถูกครอบครองโดยเจ้าพ่อแห่งวงการรถยนต์อิตาลี Fiat S.p.A ตั้งแต่ปี 1993
5 พี่น้องแห่งตระกูล Maserati ได้แก่ Alfieri, Bindo, Carlo, Ettore, และ Ernesto เป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการรถยนต์ทั้งสิ้น โดยที่ Alfieri, Bindo และ Ernesto เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ 2 ลิตร ให้กับรถแข่งยี่ห้อ Diatto เพื่อใช้สำหรับการลงแข่ง Grand Prix ด้วยประสบการณ์ของพวกเขาที่เคยทำงานให้กับ Diatto จึงกลายเป็นแรงผลักดันทำให้เกิด Maserati คันแรกขึ้นมานั่นคือ Maserati Tipo 26 โดย Alfieri เป็นผู้ขับและสามารถคว้าชัยได้จากรายการ Targa Florio งานแข่งรถเก่าแก่บนภูเขาในปี 1926
ส่วนพี่น้องคนอื่นๆ ในตระกูลอย่าง Mario ผู้เป็นช่างศิลป์และนักวาดภาพ ได้ช่วยออกแบบยี่ห้อของรถรูปตรีศูล (Trident) ซึ่งต้นแบบความคิดมาจาก Fontana di Nettuno บ่อน้ำพุรูปเทพเนปจูนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Bologna เทพเจ้าแห่งน้ำและทะเลผู้ถือตรีศูลเป็นอาวุธ
ในปี 1931 พี่น้อง Maserati ได้ขายหุ้นส่วนของบริษัทให้กับครอบครัว Adolfo Orsi ซึ่งเป็นผู้ที่ทำการย้ายสำนักงานใหญ่ไปยัง Modena ซึ่งเป็นที่อยู่ในปัจจุบัน จากนั้นในปี 1932 Alfieri Maserati ได้ถึงแก่กรรม ส่วนพี่น้องที่เหลือก็ยังคงดำเนินกิจการทางด้านรถแข่ง และเดินหน้าคว้าชัยเบียดยักษ์ใหญ่เยอรมันอย่าง Auto Union (Audi) และ Mercedes ซึ่งรถที่นำชื่อเสียงมาให้พวกเค้าคือ Maserati 8CTF ที่สามารถคว้าชัยชนะนอกบ้านในรายการ Indianapolis 500-Mile Race ในรัฐ Indiana สหรัฐอเมริกา
จากนั้นมาก็เข้าสู่ช่วงสภาวะสงครามโลก พี่น้อง Maserati จำเป็นต้องวางมือกับวงการรถแข่งเพื่อเข้าร่วมกองทัพและผลิตรถ V16 ให้แก่ Benito Mussolini หัวหน้ารัฐบาลคนที่ 1 แห่งอิตาลี และ Adolf Hitler จอมเผด็จการแห่งเยอรมัน แต่ยังไม่ทันได้สำเร็จเป็นรูปร่างก็สิ้นสุดสงคราม จึงหันกลับมาเดินหน้าผลิตรถภายใต้ชื่อตัวเองสำเร็จออกมาเป็นรุ่น Maserati A6 เพื่อเตรียมพร้อมกับการเปิดฉากการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นในช่วงหลังสงครามโลก
ต่อมาพวกเขาได้หมดสัญญากับครอบครัว Orsi จึงได้ผันตัวออกมาทำบริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตที่ชื่อว่า O.S.C.A. และสร้างรถแข่งอย่างรุ่น 4CLT, 8CLT และรุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดคือ A6GCM แต่หลังจากนั้นก็ยุติวงการแข่งรถเนื่องด้วยอุบัติเหตุที่เมือง Guidizzolo ในปี 1957 จึงขายบริษัท O.S.C.A. ให้กับท่านเคาท์ Domenico Agusta แต่พวกเขาก็ยังคงสร้างรถสำหรับการแข่งประเภทอื่นๆ โดยไร้สังกัด และหันมาสนใจผลิตรถบนท้องถนนมากขึ้น
ต่อมาในปี 1968 Adolfo Orsi ผู้ครอบครองรถยี่ห้อ Maserati ได้ขายบริษัทให้กับผู้ผลิตสัญชาติฝรั่งเศส Citroën ทำให้เกิดรถรุ่นใหม่และสร้างได้จำนวนมากกว่าเดิม เพราะ Citroën ได้อาศัยความเชี่ยวชาญและการผลิตเครื่องยนต์จาก Maserati ไปประยุกต์ใช้กับรถรุ่น Citroën SM และรุ่นอื่นๆ ส่วน Maserati เองก็ได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับ Citroën อย่างเช่นรถรุ่น Maserati Bora และ Maserati Quattroporte II ถือว่าเป็นผลดีจากการจับมือทางการค้าของทั้งสองค่าย แต่ต่อมาในปี 1973 ช่วงวิกฤตการณ์น้ำมันโลก ส่งผลกระทบกับ Citroën จนถึงขั้นล้มละลาย ทำให้บริษัท PSA Peugeot Citroën ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการเกื้อหนุนจากกองทุนรัฐบาลอิตาลีได้เข้ามารับช่วง การบริหารต่อ
จากนั้นในปี 1975 อดีตนักแข่งรถชาวอาเจนตินา Alessandro de Tomaso ได้เข้าครอบครองกิจการ ซึ่ง De Tomaso นั้นได้ทำงานร่วมกับบริษัท Chrysler ทั้งสองจึงร่วมสร้างผลงานขึ้นมาอีก 1 รุ่นคือ Chrysler TC by Maserati ต่อมาในปี 1993 Maserati ก็ได้ถูกซื้อโดยบริษัทใหญ่อย่าง Fiat Auto ซึ่งลงทุนกับ Maserati มหาศาล และในระหว่างนั้นก็ได้ขายหุ้นส่วน 50% ให้กับบริษัทในเครืออย่าง Ferrari
ต่อมาไม่นาน Ferrari ก็ได้เข้าควบคุมกิจการทั้งหมด ปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Maserati ให้มีรูปแบบที่หรูหรามากขึ้น จัดการโละอุปกรณ์เก่าๆ ทิ้งและติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยที่โรงงาน Modena ด้วยเครดิตของ Ferrari ทำให้ Maserati สามารถกลับมาสดใสได้อีกครั้ง เริ่มตีตลาดฝั่งอเมริกาและทั่วโลก จากนั้นในปี 2005 Maserati ได้แยกออกจาก Ferrari ไปรวมตัวกับ Alfa Romeo ซึ่งอยู่ในเครือของ Fiat Auto เช่นกัน สามารถทำกำไรครั้งแรกในรอบ 17 ปีให้กับ Fiat Auto Group ได้ในปี 2007
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น